วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

บทที่ 5 วัฏจักรการพัฒนาระบบการจัดการความรู้ (Knowledge Management Systems Life Cycle)


การเปรียบเทียบระหว่าง CSLC กับ KMSLC



Conventional System Life Cycle วงจรชีวิตการพัฒนาระบบแบบเดิม

       1. Recognition of Need and Feasibility Study การกำหนดความต้องการของระบบ
       2. Functional Requirements Specifications ข้อกำหนดคุณสมบัติการทำงานของระบบ (วิเคราะห์ระบบ)
       3. Logical Design (master design plan) การออกแบบเชิงตรรกะ (แผนการออกแบบหลัก)
       4. Physical Design (coding) การออกแบบทางกายภาพ (การเข้ารหัส)
       5. Testing การทดสอบ
       6. Implementation (file conversion, user training) การใช้งาน (การแปลงไฟล์การฝึกอบรมผู้ใช้)     
       7. Operations and Maintenance การดำเนินงานและบำรุงรักษา


KM System Life Cycle วงจรการพัฒนาระบบการจัดการความรู้

       1. Evaluate Existing Infrastructure ประเมินโครงสร้างของระบบพื้นฐานที่มีอยู่
       2. Form the KM Team จัดตั้งทีมงานการจัดการความรู้
       3. Knowledge Capture การรวบรวมความรู้มาเก็บไว้ เพื่อที่จะเอาข้อมูลความรู้เหล่านั้นเข้าสู่ระบบ
       4. Design KMS Blueprint การออกแบบพิมพ์เขียว ของการจัดการความรู้
       5. Verify and validate the KM System การสร้างระบบขึ้นมาแล้วตรวจสอบว่าระบบมีความเหมาะสมหรือไม่
       6. Implement the KM System การนำระบบไปใช้
       7. Manage Change and Rewards Structure การจัดการของการเปลี่ยนแปลงและขั้นตอนของการให้รางวัล
       8. Post-system evaluation การประเมินผลหลังนำระบบไปใช้



Stages of KMSLC

       1. Evaluate Existing Infrastructure การประเมินโครงสร้างที่มีอยู่

              1.1 ความรู้อะไรที่จะหายไปจากการเกษียณอายุการย้าย หรือ การออกไปองค์กรอื่น?

              1.2 จำเป็นต้องใช้ระบบ KM ที่เสนอในหลายตำแหน่งหรือไม่

              1.3 มีผู้เชี่ยวชาญและพร้อมที่จะช่วยเหลือในการสร้างระบบ KM หรือไม่?

              1.4 ปัญหาที่ต้องสงสัยประสบการณ์เป็นปีต้องใช้ประสบการณ์และเหตุผลในการแก้ปัญหาโดยปริยายหรือไม่?


       2. Form the KM Team การจัดตั้งทีมงานการจัดการความรู้

             2.1 ทีมจะประสบความสำเร็จจะขึ้นอยู่กับความสามารถของคนในทีม

             2.2 ขนาดของทีมที่จะประสบความสำเร็จต้องมี 7 คน

             2.3 ความซับซ้อนของโครงการ

             2.4 ภาวะผู้นำ สามารถสั่งลูกน้องได้และเป็นแรงจูงใจองทีม ว่าทีมมีแรงจูงใจมากน้อยแค่ไหน

             2.5 ทีมนั้นจะต้องไม่ไปสัญญาอะไรเกินเลยมากไปกว่าสิ่งที่มีจริงของระบบที่เราส่งมอบ


       3. Knowledge Capture การรวบรวมความรู้มาเก็บไว้ เพื่อที่จะเอาความรู้นั้นเข้าสู่ระบบ

             3.1 การดึงความรู้จากสื่อที่หลากหลาย หรอแหล่งความรู้ต่างๆ

             3.2 ต้องดึงความรู้จากผู้เชี่ยวชาญองค์กรโดยใช้เครื่องมือที่หลากหลาย

             3.3 นักพัฒนาระบบจะไปดึงความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อจะนำมาสร้างฐานความรู้


Knowledge Capture and Transfer Through Teams การจับและถ่ายทอดความรู้ผ่านทีม

       4. Design KM Blueprint การออกแบบพิมพ์เขียวของการจัดการความรู้

            4.1 ขอบเขตที่ต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ

            4.2 มีการตัดสินใจบนองค์ประกอบของความต้องการของระบบ

            4.3 การพัฒนาระดับชั้นที่สำคัญของสถาปัตยกรรมของระบบการจัดการความรู้

            4.4 ระบบต้องมีความสามารถในการใช้งานระหว่างโครงสร้างพื้นฐานที่แตกต่างกัน

Layers of KM Architecture

       5. Verify and validate the KM System การสร้างระบบขึ้นมาแล้วตรวจสอบว่าระบบมีความเหมาะสมหรือไม่

            5.1 ตรวจสอบความเหมาะสมของระบบ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบมีฟังก์ชั่นการทำงานที่ถูกต้อง และเหมาะสม

           5.2 วิธีการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าระบบให้ผลลัพธ์การประมวลผลที่ถูกต้อง

           5.3 ตรวจสอบความผิดพลาดที่ไม่ได้เกิดจากการประมาทเลินเล่อ


       6. Implement the KM System การนำระบบการจัดการความรู้ไปใช้

           6.1 การนำไปปฏิบัติงานจริงในระบบการจัดการความรู้ใหม่ และทำได้จริง

           6.2 การเปลี่ยนข้อมูลให้อยู่ในรูปของข่อมูลหรือไฟล์

           6.3 การอบรมผู้ใช้งาน

       การประกันคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญซึ่งรวมถึงการตรวจสอบสำหรับ

           - ความผิดพลาดเชิงเหตุเชิงผล

           - ตรวจถึงความคลุมเครือ

           - อะไรที่ไม่สมบูรณ์ต้องไปแก้ให้สมบูรณ์

           - ตรวจความผิดพลาดในลักษณะ False Positive เราตรวจแล้วมันถูกแต่จริงๆ แล้วมันผิด มาจากการที่เขียนโปรแกรมผิด False Negative เราตรวจแล้วมันให้คำตอบว่าผิด แต่จริงๆ แล้วมันถูก


       7.  Manage Change and Rewards Structure ชั้นของการนำระบบไปใช้และจัดการเรื่องการให้รางวัล

           7.1 ต้องการลดแรงต่อต้านจากผู้ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ผู้ใช้ หรือจากผู้ที่ก่อกวนให้เกิดปัญหา

           7.2  แรงต้านทานนี้แสดงออกมาจากการตอบโต้ เช่น การกำหนด Password ที่ไม่ปฏิบัติ ( Password ยุ่งยาก) หรือหลีกเลี่ยง


       8. Post-system evaluation การประเมินผลหลังจากการนำระบบไปใช้แล้ว

           8.1 ประเมินผลกระทบของระบบ ในแง่ของผลกระทบต่อบุคคล วิธีการปฏิบัติ หรือผลการดำเนินงานของธุรกิจ

           8.2 ขอบเขตที่เราต้องพิจารณาผลลัพธ์ของการนำระบบไปใช้ ทำให้เราได้ความรู้ในกาตัดสินใจด้ดีขึ้น

                 - ต้องใช้การตัดสินใจที่มีคุณภาพ ทำให้เราแก้ผลกระทบที่เกิดขึ้นได้

                 - ดูจากทัศนคติของผู้ใช้ (อาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้)

                 - ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากต้นทุน ที่เกิดจากการนำระบบไปใช้ และไปประมวลผลรวมต้นทุนที่เกิดจากการปรับระบบให้ทันสมัยมากขึ้น